“การท่าเรือฯ” เยียวยา 250 ล้าน ย้ายเคเบิลใต้น้ำใยแก้ว ลุย “แหลมฉบัง” เฟส 3

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOA) ระหว่าง กทท. และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เพื่อเพิ่มขีดความสามารถท่าเรือแหลมฉบังในการก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ณ ท่าเรือแหลมฉบัง โดยมีนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. และ พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง

นายเกรียงไกร กล่าวว่า การลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีมติอนุมัติโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เสนอ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถท่าเรือแหลมฉบังในการรองรับอุปสงค์จากปริมาณตู้สินค้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต และสนับสนุนการเป็นประตูการค้า สำหรับพัฒนาอุตสาหกรรมและการค้าของประเทศไทย ที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน และเพิ่มพูนขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งเป็นส่วนงานหนึ่งที่สนับสนุนแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันอย่างแท้จริง

ประกอบกับ กทท. ตรวจสอบพบว่า มีระบบเคเบิลใต้น้ำใยแก้วเส้นเพชรบุรี-ศรีราชา ของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) อยู่ในพื้นที่ก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ณ ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่ง กทท. และ NT ได้ประชุมหารือร่วมกันในการรื้อย้ายระบบเคเบิลใต้น้ำดังกล่าว เพื่อให้การก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเป็นไปตามที่กำหนด จนนำมาสู่การจัดทำบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ เพื่อชดเชยเยียวยาการรื้อย้ายระบบเคเบิลใต้น้ำใยแก้วเส้นเพชรบุรี-ศรีราชา ในวงเงิน 250 ล้านบาท ให้แก่ NTคำพูดจาก pg เว็บตรง

นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า กทท. เล็งเห็นถึงความสำคัญของโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ซึ่งเป็นระบบการขนส่งทางน้ำที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และการลงนามในบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ จะเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่การเชื่อมโยงพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจสู่นานาประเทศ และเป็นการพัฒนาระบบการขนส่ง และโลจิสติกส์ของประเทศให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล รวมทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพในการรองรับปริมาณตู้สินค้าที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต อันเป็นประโยชน์ในภาพรวมของเทศต่อไป.

Related Posts